BODY

วิธีป้องกันแผลเป็นร้ายแรงจาก ‘แผลไหม้ (Burn)’ ที่ ‘มุนดงอึน’ จากซีรี่ส์ ‘The Glory’ ไม่มีโอกาสใช้

หากโดนไฟไหม้หรือของร้อนลวก ต้องทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ผิวสวยๆ ต้องเกิดแผลเป็นร้ายแรงแบบ ‘มุนดงอึน’ นางเอกผู้น่าสงสารจากซีรี่ส์ ‘The Glory’

     เชื่อว่าตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก ‘The Glory’ ซีรี่ส์ตีแผ่การใช้ความรุนแรงในโรงเรียนที่ได้นางเอกระดับ A-List อย่าง ‘ซงเฮยคโย’ มารับบท ‘มุนดงอึน’ นางเอกผู้ถูกกระทำและต้องการเอาคืนอย่างสาสม และถึงแม้นี่จะเป็นซีรี่ส์ที่มีการเขียนบทขึ้นมา แต่ฉากความรุนแรงที่ดูน่ากลัวอย่างฉากการใช้เครื่องม้วนผมร้อนๆ มาทำร้ายมุนดงอึนจนเป็นแผลโดนไหม้ (Burn) เหวอะหวะนั้นถูกเขียนขึ้นมาโดยอ้างอิงจากเรื่องจริง! โดยเป็นเรื่องราวของเด็กหญิงมัธยมต้นที่เกิดขึ้นในปี 2021 ซึ่งโดนบูลลี่ด้วยการถูกไฟลนจนผิวหนังไหม้ และแน่นอนว่านั่นทำให้เด็กหญิงคนนี้ได้รับแผลเป็นในระดับรุนแรงไม่ต่างจากมุนดงอึนเลยทีเดียว

     แม้การบูลลี่ในประเทศไทยอาจจะยังไปไม่ถึงระดับนี้ แต่การเตรียมรับมือกับแผลไหม้ก็เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เพราะเรื่องการโดนของร้อนลวกจนเกิดแผลไหม้นั้นนับว่าเป็นเรื่องใกล้ตัว และอาจทำให้เกิดแผลเป็นจนเสียโฉมได้ ดังนั้นโว้กบิวตี้จึงขอแชร์ความรู้เบื้องต้นในการปฐมพยาบาลในเหตุการณ์โดนของร้อนไหม้เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดแผลเป็นระดับรุนแรงในอนาคต

 

ทำความเข้าใจแผลไหม้ (Burn)

     ไม่ว่าจะเป็นการโดนแดดเผา น้ำร้อนลวก สัมผัสกับของร้อน สัมผัสสารเคมี สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้เกิดแผลไหม้ทั้งสิ้น ซึ่งแผลไหม้นั้นมีหลายระดับ ตั้งแต่ระดับเล็กๆ ที่สามารถปฐมพยาบาลได้ด้วยตัวเอง ไปจนถึงระดับใหญ่ที่ต้องอาศัยการรักษาทางการแพทย์ และไม่ว่าแผลนั้นจะใหญ่หรือเล็กก็จะทำให้เซลล์ผิวหนังบริเวณที่เกิดแผลตายลง แม้ร่างกายจะมีกระบวนการฟื้นฟูตัวเองด้วยการอาศัยคอลลาเจนซึ่งปกติจะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้ ยกเว้นกรณีที่แผลติดเชื้อและเป็นแผลไหม้ในระดับรุนแรง

 

ทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดแผลเป็นรุนแรง

     แผลไหม้เป็นแผลที่ติดเชื้อได้ง่าย ดังนั้นหากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดแผลไหม้ ไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุหรืออะไรก็แล้วแต่ โว้กบิวตี้ขอแนะนำให้สาวๆ ปฐมพยาบาลตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดแผลเป็นรุนแรงหลังจากที่แผลหายแล้ว

1. ลดอุณหภูมิและรักษาแผล

     สำหรับผู้ที่ได้ดูภาพยนตร์เรื่อง The Glory จะเห็นว่ามุนดงอึนพยายามนอนแผ่ลงบนหิมะเพื่อใช้ความเย็นบรรเทาความร้ายแรงของแผล แต่สำหรับประเทศไทยที่ไม่มีหิมะ ทางออกง่ายๆ ก็คือ ‘ว่านหางจระเข้’ องค์ความรู้ในการรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกจากยุคโบราณแต่ยังใช้งานได้ดีเสมอ เพราะนอกจากว่านหางจระเข้จะมีฤทธิ์เย็นแล้ว ยังสามารถช่วยรักษาแผลและลดอาการอักเสบได้ด้วย (ซึ่งจุดนี้นับว่าดีกว่าหิมะที่มีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรคและปราศจากวรรพคุณในการรักษาแผล)

     สำหรับว่านหางจระเข้แบบสด ใช้ว่านหางจระเข้ที่ปอกเปลือกและล้างน้ำสะอาดมาประคบลงบนแผลไหม้ แต่หากการหาว่านหางจระเข้สดเป็นเรื่องที่ยุ่งยากจนเกินไป ของดีติดบ้านอย่างเจลว่านหางจระเข้ก็ใช้ได้เช่นกัน นอกจากนี้ ‘บัวหิมะ’ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่น้อยหน้า ด้วยฤทธิ์เย็นและสรรพคุณในการรักษาแผล รวมถึงบรรเทาอาการอักเสบที่ไม่ด้อยไปกว่าว่านหางจระเข้ อีกทั้งในปัจจุบันยังมีรูปแบบครีมหรือเจลซึ่งง่ายต่อการใช้งานไม่ต่างจากเจลว่านหางจระเข้อีกด้วย

     **ก่อนทาว่านหางจระเข้หรือบัวหิมะ ต้องล้างแผลด้วยน้ำอุณหภูมิห้องที่สะอาด ห้ามใช้น้ำเย็นจัดหรือน้ำแข็งประคบเพื่อลดอุณหภูมิ เพราะจะทำให้แผลลึกขึ้นได้**

Bao Shu Tang Bao Fu Ling

ราคา 1,100 บาท

2. พันผ้าพันแผล

     เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อโดนไหม้หรือโดนของร้อนลวก ผิวหนังจะเกิดการโป่งพอง พร้อมกับเกิดน้ำภายใต้ผิวหนัง ซึ่งสิ่งที่คนส่วนใหญ่พยายามทำคือลอกผิวหนังส่วนที่โป่งพองออก แต่นั่นเป็นวิธีที่ทำให้แผลแย่ลง กลับกันแล้วการกดแผลให้แน่นโดยใช้ผ้าพันแผลพันให้แน่น (แต่ไม่แน่นจนเกินไป) เป็นสิ่งช่วยลดโอกาสในการเกิดแผลเป็นได้มากกว่า เพราะการพันผ้าพันแผลจะช่วยลดการขยายตัวของเซลล์ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในขั้นตอนของการฟื้นฟูร่างกายตามธรรมชาติ ซึ่งน่าเสียดายที่แม้มุนดงอึนจะพยายามปฐมพยาบาลเองด้วยการขอยาฆ่าเชื้อจากห้องพยาบาล แต่ก็ไม่ได้พันผ้าพันแผลเอาไว้ จึงทำให้แผลเป็นอยู่ในระดับรุนแรง

 

3. เติมความชุ่มชื้นและวิตามิน

     นอกจากการหลีกเลี่ยงการติดเชื้อแล้ว การเติมความชุ่มชื้นและวิตามินให้กับผิวบริเวณที่เกิดแผลไหม้ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดการเกิดแผลเป็นได้ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอ วิตามินบีรวม วิตามินซี หรือวิตามินอี ล้วนเป็นวิตามินที่จำเป็นทั้งนั้น เพราะวิตามินทั้ง 4 ตัวจะทำงานร่วมกันในการช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาฟื้นฟูแผล และคอลลาเจนก็จะสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทนเซลล์ที่ตายจากการโดนไหม้ ในขณะที่ความชุ่มชื้นจะช่วยลดอาการแห้งตึงและอาการคัน ดังนั้นการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หรือรับประทานวิตามินเสริม รวมถึงการดื่มน้ำให้เพียงพอจึงสำคัญมากในช่วงนี้

     อย่างไรก็ตาม หากชีวิตมีข้อจำกัดจนไม่สามารถทำได้ ทางออกที่ง่ายที่สุดของสาวๆ ก็คือการทาครีมลดรอยแผลเป็น เพราะครีมลดรอยทั่วไปตามท้องตลาดต่างอุดมไปด้วยวิตามินและส่วนผสมที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวบริเวณที่เป็นแผล ซึ่งเราจะสังเกตเห็นว่านอกจากมุนดงอึนจะไม่ได้รับประทานอาหารอย่างเพียงพอ (จนร่างกายขาดสารอาหาร) แล้ว เธอยังไม่สามารถซื้อครีมทาลดรอยแผลเป็นมาใช้ได้อีกต่างหาก



WATCH



Hiruscar Gel: Gel with MPS

ราคา 626 บาท

Dermatix Ultra Gel

ราคา 430 บาท

4. รับการรักษาจากแพทย์

     ในกรณีที่แผลไหม้อยู่ในระดับรุนแรง โว้กแนะนำให้สาวๆ ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดแล้วเข้ารับการรักษาทางการแพทย์จากโรงพยาบาลใกล้บ้านให้เร็วที่สุด เพราะในกรณีนี้การทาครีมจะยิ่งเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อ หรือหากแผลไหม้มีขนาดใหญ่ก็จำเป็นต้องได้รับการเย็บ การได้รับการดูแลโดยแพทย์มืออาชีพที่มีอุปกรณ์ครบพร้อมเป็นการป้องกันการอักเสบและติดเชื้อของแผลไหม้ รวมถึงช่วยลดความร้ายแรงของแผลเป็นที่จะเกิดอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหากมุนดงอึนได้รับการรักษาทางการแพทย์อย่างทันท่วงที เธออาจไม่ต้องมีแผลเป็นร้ายแรงทั่วร่างกาย และไม่ต้องเผชิญกับอาการ PTSD อย่างรุนแรงแบบนี้ก็เป็นได้

 

     นอกจาก The Glory จะเป็นซีรี่ส์ที่ตีแผ่เรื่องราวการใช้ความรุนแรงในโรงเรียนของประเทศเกาหลีแล้ว ซีรี่ส์เรื่องนี้ยังมีอิทธิพลในประเทศไทยเองในการเสริมพลังให้กับผู้ที่เคยถูกบูลลี่ในอดีตออกมาพูดถึงความรุนแรงที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองด้วยเช่นกัน ซึ่งถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่จะช่วยขับเคลื่อนสังคมของเราให้ปราศจากการบูลลี่ ซึ่งโว้กบิวตี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะตระหนักถึงความร้ายแรงของการบูลลี่ภายในโรงเรียน และช่วยกันรณรงค์ต่อต้านการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบจนปัญหานี้หมดไปจากสังคม

Mederma Intense Scar Gel

ราคา 495 บาท

BREYLEE Scar Removal Gel

ราคา 521 บาท

PROVAMED SCAR SILICONE

ราคา 390 บาท

ภาพ : Netflix

WATCH

คีย์เวิร์ด: The Glory Netflix Scar Burn Scar Scar Cream Skin Beauty Tips