Joba Moisturizing Shampoo จาก Phyto ราคา 1,100 บาท

แชมพูสูตรช่วยคืนความชุ่มชื่น ฟื้นฟูเส้นผมที่แห้งเสีย ดูมีน้ำหนักด้วยส่วนผสมของ Jojoba Milk, Pea Protein และ Mallow Flowers 

TIP 2: ใช้แชมพูม่วง

อีกหนึ่งทิปส์สำคัญของการดูแลผมสีบลอนด์ให้ไม่เฟดออกไว คือการใช้แชมพูสีม่วง โดยแชมพูสีม่วงจะช่วยถนอมสีบลอนด์และป้องกันไม่ให้สีผมที่เฟดออกดูเป็นสีสนิม

TIP 3: จัดเต็มกับทรีทเมนท์

ทรีทเมนท์เป็นส่วนสำคัญของการดูแลผมที่ผ่านการทำสีหรือกัดสีมา เพราะจะช่วยฟื้นบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก ช่วยเคลือบเกล็ดผมที่เปราะหักให้แลดูสุขภาพดี โดยสำหรับผมทำสีควรดูแลด้วยทรีทเมนท์เป็นประจำอย่างน้อย  2 ครั้งต่อสัปดาห์

No. 3 จาก Olaplex ราคา 1,400 บาท

ทรีทเมนท์ฟื้นฟูเส้นผมสูตรเข้มข้น ปราศจากสารเคมี ช่วยซ่อมแซมเส้นผมที่แห้งเสียและคืนความชุ่มชื่น

TIP 4: ใช้แฮร์มาส์กช่วยฟื้นบำรุงสม่ำเสมอ

สลับเปลี่ยนระหว่างการใช้ทรีทเมนท์กับแฮร์มาส์กเพื่อช่วยฟื้นบำรุงเส้นผมให้นุ่มสลวย ซึ่งอาจเลือกใชทรีทเมนท์ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ และระหว่างนั้นให้ใช้เป็นแฮร์มาส์กแทน

Botanical Repair Intensive Strengthening Masque -Rich จาก Aveda ราคา 2,500 บาท

แฮร์มาส์กเข้มข้นช่วยฟื้นบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก 

TIP 5: ใช้ออยล์บำรุงเส้นผม

นอกจากผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของ Leave-in แล้ว ควรเสริมการฟื้นฟูเส้นผมหลังทำสีด้วยการใช้น้ำมันบำรุงเส้นผมเป็นประจำ โดยแนะนำให้ใช้บริเวณปลายผมหลังการสระผม

Wild Marula™ Tangle Spray จาก Drunk Elephant ราคา 990

น้ำมันบำรุงเส้นผม ผสานคุณค่าการฟื้นบำรุงจากน้ำมันสกัดจากธรรมชาติอย่างน้ำมันมารูล่าและน้ำมันอาแกน ที่ซึมลึกเข้าฟื้นฟูเส้นผมที่แห้งเสียให้ดูมีน้ำหนักและแข็งแรง

TIP 6: เล็มปลายผมที่เสียออก

อีกหนึ่งวิธีฟื้นฟูผมที่แห้งเสียจากการทำสีคือตัดปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งก็คือการเล็มปลายผมที่แห้งเสียออก เพราะหากปล่อยไว้ปลายผมที่แตกจะค่อยๆ ลามขึ้นไปทั่วเส้นผม