TREATMENTS

ทำความรู้จักกับ 3 ระดับความเข้มข้นของแสงเลเซอร์ที่สำหรับใช้ในการแก้ปัญหาผิวต่างๆ

ก่อนจะตัดสินใจทำทรีตเมนต์ เรามาทำความรู้จักกับความแตกต่างของความเข้มข้นของแสงเลเซอร์ที่ตอบโจทย์แต่ละสภาพปัญหาผิวแต่ละแบบกัน

ในปัจจุบันมีชนิดและระดับของเลเซอร์ที่ช่วยแก้ปัญหาผิวหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของริ้วรอย จุดด่างดำ ความหมองคล้ำ ผิวไม่เรียบเนียนจากปัญหาสิว การเลเซอร์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้กำจัดปัญหาเหล่านั้นออกไปได้อย่างอยู่หมัด แต่ความแตกต่างของเลเซอร์แต่ละแบบก็ให้การแก้ปัญหาผิวที่ไม่เหมือนกัน มาทำความรู้จักกับ 3 ระดับของความเข้มข้นของแสงเลเซอร์ที่ใช้ในการแก้ปัญหาผิวกัน

  •  Level 1 : Light Laser (Clear + Brilliant)

 

What Is It?

เป็นเลเซอร์สำหรับฟื้นฟูผิวที่ช่วยคืนความกระจ่างใสให้กับผิวหน้าโดยเฉพาะ เน้นเรื่องลดจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ความหมองคล้ำ เติมความเปล่งปลั่งให้ผิวแลดูกระจ่างใส

For Who

เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวและทุกสีผิว โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาจากหลุมสิว รอยสิว ปัญหาริ้วรอย ผิวไม่เรียบเนียน หรือต้องการกระชับรูขุมขน

How It Works

ปลดปล่อยพลังงานเลเซอร์อนุภาคเล็กจำนวนมากจาก Diode Laser ที่ส่งผ่านการกระตุ้นเซลล์ผิวไปยังชั้นผิวที่ความลึก 0.4 มิลลิเมตร อย่างอ่อนโยนโดยไม่ทำลายเซลล์ผิวหรือทำให้เกิดบาดแผล พร้อมทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนโดยมีการควบคุมระดับของพลังงานจากคอมพิวเตอร์อย่างแม่นยำ



WATCH



The Recovery

หลังทำทรีตเมนต์เสร็จแล้วบริเวณที่รักษาจะมีอาการบวม แดง แต่จะมากน้อยนั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน แต่สักประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง รอยบวมแดงเหล่านั้นก็จะหายไป หรืออาจใช้การประคบเย็นช่วยได้ หลีกเลี่ยงการโดนแดด การสครับผิวหน้า และควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 30+ ขึ้นไป

The End Result

ผิวเรียบเนียนกระจ่างใส รูขุมขนกระชับ เห็นผลชัดเจนหลังทำทรีตเมนต์ 4-6 ครั้ง และสามารถรักษาซ้ำได้ โดยเว้นระยะการทำแต่ละครั้งประมาณ 1 เดือน

  • Level 2 : Medium-Strength Laser (Picosecond)

 

What Is It?

เลเซอร์ที่อาศัยการพัฒนาระดับความเร็วของพลังงานแสงเลเซอร์จากเดิมที่อยู่ในระดับ 1 ต่อ 1 พันล้านวินาทีให้กลายเป็นระดับ 1 ต่อ 1 ล้านล้านวินาที ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมหาศาลในระดับโมเลกุลเม็ดสีที่เรียงตัวกันหนาแน่น

For Who

เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือผู้ที่ต้องการลบรอยสักก็สามารถเลือกใช้แสงเลเซอร์ระดับนี้ได้เช่นกัน

How It Works

เมื่อยิง Picosecond Laser ไปยังบริเวณผิวที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ โมเลกุลที่เรียงตัวติดกันเป็นจำนวนมากจะกระจายออกเป็นอนุภาคเล็กๆ และถูกขับออกไปจากร่างกายอย่างรวดเร็ว ทำให้เม็ดสีที่ผิดปกติจางลงในทันที ทรีตเมนต์นี้นอกจากใช้ลบเลือนรอยด่างดำต่างๆ แล้วยังสามารถลบรอยสักได้ด้วย

The Recovery

หลังทำทรีตเมนต์ 1-3 ชั่วโมง ผิวจะเป็นสีชมพูหรือแดง แต่จะหายเป็นปกติได้ภายใน 24 ชั่วโมง

The End Result

เห็นผลตั้งแต่ทำการรักษาในครั้งแรก โดยไม่มีผลข้างเคียงเหมือนกับการเลเซอร์แบบเดิมๆ และยังไม่รู้สึกเจ็บ ไม่เสี่ยงต่อผิวไหม้ และสามารถรักษาได้อย่างต่อเนื่อง โดยสำหรับปัญหากระแดดต้องทำเลเซอร์ประมาณ 1-2 ครั้ง ส่วนปัญหากระลึกต้องทำเลเซอร์อย่างน้อยประมาณ 5-6 ครั้ง

  • Level 3 : Heavy-Duty Laser (CO22 Laser)

 

What Is It?

เป็นเลเซอร์กลุ่มพลังงานสูง ซึ่งมีความยาวคลื่น 10,600 นาโนเมตร จึงสามารถเลือกทำลายเฉพาะเนื้อเยื่อที่ต้องการโดยไม่สร้างความเสียหายให้เนื้อเยื่อโดยรอบ ไม่มีเลือดออก และไม่จำเป็นต้องเย็บแผล

For Who

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดไฝ ขี้แมลงวัน กระเนื้อ ติ่งเนื้อ หูด สิวหิน และรอยโรคอื่นๆ บนผิวหนัง

How It Works

ทำงานโดยการยิงลำแสงที่มีขนาดเล็กมากเข้าไปในผิว ทำให้เกิดรูเล็กๆ ขึ้นในผิว กระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังอาศัยระบบสแกนเนอร์ที่มีความแม่นยำสูงในการปล่อยพลังงานลงไปได้ลึกถึงระดับที่ต้องการ ให้พอดีกับทั้งผิวนูนและผิวที่เป็นหลุม

The Recovery

รอยแดงจะค่อยๆ จางหายไปเอง ภายในเวลา 1-2 เดือน ในบางรายที่มีเม็ดสีลึกลงไปอาจต้องมาทำซ้ำอีก 1-2 ครั้ง แต่ต้องทิ้งระยะห่างกันเป็นเวลา 3-6 เดือน

The End Result

ไฝและขี้แมลงวันจะหายไป ผิวบริเวณที่เป็นกระเนื้อ ติ่งเนื้อหรือหูด จะกลับมาเรียบเนียนเป็นปกติ ส่วนแผลชนิดเปิดเพื่อรักษาสิวหิน ผิวจะกลับมาปกติได้ใน 7-10 วัน

 

     

การเลเซอร์ผิวหน้ามีหลักการทำงานคล้ายๆ กับการใช้สกินแคร์บำรุงผิว คือการเลือกชนิดของแสงเลเซอร์ให้ตอบโจทย์กับปัญหาผิวของตัวเองมากที่สุด เพื่อให้ได้เห็นผลชัดเจนและมีประสิทธิภาพในระยะยาว พร้อมป้องกันการเกิดปัญหาผิวใหม่ในอนาคตได้อีกด้วย

ภาพ : www.secretmedspa.com

WATCH

คีย์เวิร์ด: #Laser