Twilight Bath Bomb จาก Lush (ราคา 395 บาท)

• Shower Cream

การเลือกใช้ครีมอาบน้ำที่มีลักษณะเป็นเนื้อครีมข้นหรือเนื้อน้ำนมจะช่วยให้การอาบน้ำดีขึ้นกว่าเดิม เพราะจะช่วยคงความชุ่มชื่นไว้ที่ผิว ช่วยลดอาการคันและระคายเคืองของผิวที่แห้งตึง เหมาะสำหรับผิวบอบบางและแพ้ง่าย

Nourish Body Cream Wash จาก Panpuri (ราคา 680 บาท)

• Body Scrub

การขัดผิวหรือสครับผิวระหว่างอาบน้ำจะช่วยให้ผิวเราสะอาดขึ้นกว่าเดิม เพราะจะเป็นการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว รวมถึงคราบสิ่งสกปรกอย่างเหงื่อไคลที่สะสมอยู่บนผิวเราให้ออกไป แนะนำให้เลือกไอเท็มที่มีเม็ดสครับเม็ดเล็ก เพราะจะไม่ทำให้บาดผิวและเกิดการระคายเคืองได้

Birthday Cake Body Scrub จาก Frank Body (ราคา 940 บาท)

• Herbal Bath Soap

สำหรับใครที่ถนัดใช้สบู่ก้อนในการอาบน้ำ แนะนำให้เลือกสบู่ก้อนที่มีส่วนผสมของเอสเซนเชียล ออยล์อย่างยูคาลิปตัส, น้ำมันเปลือกเกรปฟรุต, น้ำมันงา, อาร์แกนออยล์ และแร่ธาตุนานาชนิด ช่วยดูดซับสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขน คืนความนุ่มชุ่มชื่นให้ผิว

Pink Clay - Gentle Cleanse Clay Soap Bar จาก Herbivore Botanicals (ราคา 560 บาท)

• Body Lift

ใครที่เริ่มมีริ้วรอย รอยแตกลาย หรือเซลลูไลต์ หลังจากอาบน้ำเสร็จ จะเป็นช่วงที่รูขุมขนบนผิวกำลังเปิด แนะนำให้ใช้สกินแคร์ที่มีคุณสมบัติในการช่วยยกกระชับผิว สามารถเลือกใช้ได้ทั้งแบบครีม, ออยล์ หรือบาล์ม โดยทานวดไปที่บริเวณต้นขา ต้นแขน และหน้าท้อง หรือส่วนที่ต้องการเพิ่มความเต่งตึง จากนั้นค่อยทาครีมบำรุงผิวปกติ สเต็ปนี้จะช่วยให้ผิวเรากระชับและชุ่มชื่นมากขึ้น

Anti-Eau Body Treatment Oil จาก Clarins (ราคา 2,700 บาท)

• Charcoal Body Clay

จริงๆ แล้วผิวกายก็ต้องการการมาสก์เช่นกัน แนะนำให้เลือกมาสก์ที่มีส่วนผสมจากโคลนเป็นหลักหรือที่รู้จักกันในชื่อของเคลย์ มาสก์ เพราะจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขน ผลัดเซลล์ผิวเก่าออก พร้อมดูดซับความมันส่วนเกินออกจากผิว เสมือนผิวได้รับการดีท็อกซ์หรือทำสปาผิวง่ายๆ ได้ด้วยตัวเองนั่นเอง

Himalayan Charcoal Purifying Glow Mask จาก The Body Shop (ราคา 990 บาท)