"สิวอุดตัน" เกิดได้บ่อยที่สุดในบริเวณตำแหน่งคาง หน้าผาก และข้างแก้ม เพราะเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วเกิดการอุดตัน รวมถึงต่อมไขมันใต้ผิวหนัง ผลิตไขมันมากเกินไป ทำให้เกิดสิวอุดตันทั้งแบบสิวหัวดำ และสิวหัวขาว เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น เชื้อแบคทีเรีย สารเคมีในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสบู่ ยาสระผม และโฟมล้างหน้า รวมถึงเครื่องสำอาง เราสามารถแก้ปัญหาสิวอุดตันได้ด้วยการเอาใจใส่การบำรุงผิวตาม 5 ทิปส์ที่โว้กบิวตี้อยากให้ลองนำไปทำตามกัน

 

• ใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Salicylic Acid

สาเหตุที่ให้เลือกใช้กรดซาลิซิลิก เพราะเป็นส่วนผสมที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกอย่างอ่อนโยน พร้อมปรับสมดุลความมันใต้ชั้นผิว ทำให้น้ำมันส่วนเกินบนผิวหน้าน้อยลง ทำให้ยับยั้งป้องกันการเกิดสิวได้

1 / 2

2 / 2

• งดสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของออยล์เนื้อสัมผัสหนัก

หนึ่งในสาเหตุของการเกิดสิวอุดตันคือการที่น้ำมันและสิ่งสกปรกอุดตันในรูขุมขนมากเกินไป ฉะนั้นเพื่อลดปัญหาสิวอุดตันควรหลีกเลี่ยงการใช้สกินแคร์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของออยล์เนื้อหนักๆ เพราะจะทำให้ซึมซาบลงผิวได้ยากและทำให้กองอยู่บนผิวนั่นเอง

• ล้างหน้าแบบ Double Cleanse

เราย้ำกันเสมอว่าการล้างทำความสะอาดผิวหน้าควรเริ่มจากการใช้เคลนซิ่งในการเช็ดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกออกก่อน เช่น เคลนซิ่งวอเตอร์หรือบาล์ม จากนั้นค่อยตามด้วยการใช้เคลนเซอร์ เพื่อล้างหน้าให้สะอาดหมดจดอีกที

1 / 2

2 / 2

• ไม่กดหรือบีบสิวเอง

เพราะถ้าหากกดออกไม่หมด จะทำให้หัวสิวค้างอยู่ในรูขุมขนและกลายเป็นสิวอักเสบได้ จึงควรพบแพทย์ผิวหนังหรือเข้าคลินิกแทนจะดีกว่าการกดสิวเอง

• ใช้ยาแต้มสิวให้ถูกต้อง

ใช้ยาละลายสิวอุดตัน เป็นยาในกลุ่มเรตินอยด์ จะช่วยละลายการอุดตันของไขมัน แต่มีผลข้างเคียงหลายอย่าง เช่น ทำให้ผิวแห้ง ผิวลอก และสตรีมีครรภ์ไม่สามารถใช้ได้ ซึ่งยาตัวนี้มีความเข้มข้นตั้งแต่ 0.025%, 0.05% และ 0.1% ยิ่งเข้มข้นมากยิ่งละลายได้ดี แต่ก็ระคายเคืองผิวได้มากเช่นเดียวกัน หรือใช้ Benzac AC เป็นยาที่มีฤทธิ์ช่วยลดไขมันที่ผิวหนัง ลดการอุดตันของต่อมไขมัน แต่มีผลข้างเคียงคือทำให้ผิวแห้งและไวต่อแสงแดด ใช้มากเกินไปอาจจะทำให้ระคายเคืองได้ จึงควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังในการใช้

 

1 / 2

2 / 2