@nikki_makeup

2. Natural Highlight

การปัดไฮไลเตอร์แบบให้ผิวดูฉ่ำโกลว์ สุขภาพดีซึ่งต่างจากการฟาดไฮไลต์ในเฉพาะบริเวณโหนกแก้ม เพราะเทคนิคนี้เป็นการปัดไฮไลต์ทั้งในบริเวณหน้าแก้มและโหนกแก้ม โดยเทคนิคการปัดคือเริ่มจากการใช้แปรงพุ่มหัวเล็กจุ่มไฮไลต์แบบฝุ่น ปัดไปที่บริเวณหน้าแก้มและเชื่อมต่อมาตรงที่ปัดบริเวณที่ปัดบลัชออน หรือถ้าใครอยากเพิ่มความแกลมให้กับลุคก็สามารถนำแปรงทรงพัดมาปัดเพิ่มในบริเวณโหนกแก้มอีกได้ ปิดท้ายด้วยการใช้สเปรย์น้ำแร่ฉีดเซตเมื่อแต่งหน้าเสร็จจะช่วยทำให้ลุคดูเป็นผิวมากขึ้น

3. Ombre Lips Gloss

เป็นเทรนด์ที่เป็นการผสมผสานระหว่างเมกอัพสองสไตล์เข้าด้วยกันก็คือสายฝอและสายเกานั่นเอง เริ่มจากการใช้ลิปสติกเนื้อแมตต์ ทินต์ หรือสเตนทาในบริเวณด้านในของริมฝีปาก และใช้แปรงหรือนิ้วเกลี่ยออกมาบริเวณด้านนอกแบบไล่สี จากนั้นใช้ลิปกลอสใสไม่มีสีทาให้ทั่วบริเวณริมฝีปาก เพียงเท่านี้ก็จะได้ริมฝีปากที่ดูอวบอิ่มและมีสีแบบธรรมชาติ

@claudianeacsu

4. Soft Wing Eyeliner

เป็นเทคนิคการเขียนอายไลเนอร์ที่ทำให้ลุคดูซอฟต์ลงมากกว่าการเขียนแบบเต็มเส้น โดยมีเทคนิคการเขียน 2 แบบคือ 1. การใช้ลิควิดไลเนอร์เขียนใช้ชิดบริเวณโคนขนตาและลากหางออกมาเล็กน้อยจากนั้นใช้แปรงหัวเล็กสำหรับเกลี่ยอายไลเนอร์หรือ Smudger Brush จุ่มอายแชโดว์สีดำแล้วนำมาเกลี่ยเส้นไลเนอร์ที่เขียนไว้ให้ฟุ้งออกมา 2. การใช้ดินสออายไลเนอร์ซึ่งมีเนื้อสัมผัสค่อนข้างนิ่ม ง่ายต่อการเกลี่ย นำมาเขียนเช่นเดียวกับการใช้ลิควิดไลเนอร์และใช้แปรง Smudger Brush หรือ Eyeliner Brush นำมาเบลนด์ให้เป็นเส้นฟุ้งๆ

@jessi_makeup

5. Healthy Glow Blush On

เป็นการปัดบลัชออนบริเวณหน้าแก้มที่จะช่วยให้ลุคดูอ่อนเยาว์ ผิวสุขภาพดีเสมือนไปออกแดดมา หรือที่รู้จักกันในชื่อ Sunkissed Makeup ซึ่งเทคนิคคือการใช้แปรงพุ่มหัวกลมในการปัดและเริ่มปัดจากบริเวณหน้าแก้มไล่ไปถึงโหนกแก้ม และการเลือกสีของบลัชออนให้เข้ากับเทคนิคการปัดแบบนี้ คือสีชมพูเนเชอรัลหรือสีพีชที่ไม่ติดส้มมากจนเกินไป จะทำให้แก้มดูมีสีระเรื่อๆ แบบธรรมชาติ

@nikki_makeup